Only word “I love you”
เป็นเรื่องที่อ่านเจอน่ะ อยากให้เพื่อนคนหนึ่งได้อ่านเพราะช่วงนี้เห็นมันฟุ่งซ่านมากเกินไปแล้วอะ เผื่ออ่านแล้วจะคิดอะไรได้บ้างน่ะจ๊ะ นู่ฝน
ผู้เข้าชมรวม
266
ผู้เข้าชมเดือนนี้
0
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผม...เกรด10
ผมนั่งเรียนวิชาภาษาอังกฤษผมนั่งมองหญิงสาวข้างๆผม เธอคือคนที่ผมเรียกว่า “เพื่อนรัก” ผมจ้องมองไปที่ผมยาวราวกับเส้นไหมของเธอและอยากให้เธอเป็นของผม แต่เธอไม่คิดกับผมแบบนั้นผมรู้...หลังจากเลิกเรียนเธอเดินเข้ามาหาผมเพื่อจะขอยืมโน้ตที่เธอจดไม่ทันในวันนี้ ผมยื่นโน้ตให้เธอไป เธอตอบกลับมาว่า “ขอบใจ”และจูบลงที่แก้มผม ผมอยากบอกให้เธอรู้ว่าผมไม่ต้องการเป็นแค่ “เพื่อน” ผมรักเธอแต่ผมก็อายเกินไปที่จะบอกและผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
เกรด11
โทรศัพท์ดังขึ้น ปลายทางของคนที่โทรมาก็คือ “เธอ” นั่นเอง เธอกำลังร้องไห้ และพร่ำบ่นไม่ยอมหยุดว่าคนรักของเธอหักอกเธอเช่นไร เธอขอให้ผมไปหาเพราะเธอไม่อยากอยู่คนเดียวและผมก็ไปนั่งอยู่ข้างๆเธอที่โซฟาจ้องมองไปยังดวงตาที่อ่อนโยนของเธอและอยากให้เธอเป็นของผมสองชั่วโมงกับการนั่งดูหนังที่ Drew Barrymore เล่น กับมันฝรั่งอีกสามถุงเธอก็ตัดสินใจเข้านอน เธอมองมาที่ผมและพูดว่า “ขอบใจน่ะ” และจูบลงที่แก้มของผม ผมอยากบอกให้เอรู้ว่าผมไม่ต้องการเป็นแค่ “เพื่อน” ผมรักเธอแต่ผมก็อายเกินไปที่จะบอกและผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
ปีสุดท้าย
ก่อนวันของงานพรอม(prom)เธอเดินมาหาผมที่ล็อกเกอร์ “คู่เดทของฉันมันห่วย”เธอพูดขึ้นเขาไม่ยอมไปงานพรอมกับเธอ และผมก็ยังไม่มีคู่เดท ตอนสมัยเกรดเจ็ด เราเคยสัญญาว่าถ้าคนใดคนหนึ่งยังไม่มีคู่เดท เราจะไปงานพรอมด้วยกันในฐานะ “เพื่อนรัก” และเราก็ตกลงเป็นคู่เดทในงานพรอมด้วยกันคืนวันงานหลังจากเลิกงานแล้วผมยืนอยู่ที่บันไดหน้าบ้านเธอ ผมจ้องมองเธอเช่นเดียวกับที่เธอยิ้มให้ผมและจ้องมองกลับมาที่ผมด้วยดวงตาสดใสของเธอ ผมอยากให้เธอเป็นของผม แต่เธอไม่ได้คิดกับผมแบบนั้น ผมรู้...ผมอยากจะบอกเธอให้รู้ว่าผมไม่ต้องการเป็นแค่ “เพื่อน” ผมรักเธอแต่ผมก็อายเกินไปที่จะบอก และผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
วันจบการศึกษา
วันเวลาผ่านไป จากวันเป็นสัปดาห์ จากสัปดาห์เป็นเดือนก่อนที่ผมจะทันกระพริบตามันก็เป็นวันจบการศึกษาแล้ว ผมมองดูร่างอันสมส่วนของเธอลอยขึ้นไปบนเวทีราวกับนางฟ้าเพื่อรับประกาศนียบัตร ผมอยากให้เธอเป็ฯของผม แต่เธอไม่คิดกับผมแบบนั้น ผมรู้...ก่อนที่ทุกคนจะกลับบ้าน เธอเดินเข้ามาหาผมในชุดครุยและหมวก และเธอร้องไห้เมื่อผมกอดเธอ จากนั้นเธอก็เงยหน้าขึ้นจากไหล่ของผม และพูดว่า “เธอเป็นเพื่อนรักของฉัน ขอบใจนะ” และจูบลงที่แก้มผม ผมอยากจะบอกเธอให้รู้ว่าผมไม่ต้องการเป็นแค่ “เพื่อน” ผมรักเธอแต่ผมก็อายเกินไปที่จะบอก และผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้
2-3 ปีต่อมา
ตอนนี้ผมนั่งอยู่ที่เก้าอี้แถวในโบสถ์เธอคนนั้นกำลังจะแต่งงาน ผมนั่งมองเธอพูด “ฉันรัค่ะ” และไปสู่ชีวิตใหม่ของเธอ เธอแต่งงานไปกับชายคนอื่นไปแล้วผมอยากให้เธอเป็นของผมแต่เธอไม่ได้คิดกับผมแบบนั้น ผมรู้..ก่อนเธอจะนั่งรถออกไปเธอเดินมาหาผมและพูดว่า “เธอมางานของฉัน!” และพูดว่า “ขอบใจนะ” แล้วจูบลงที่แก้มของผม ผมอยากจะบอกให้เธอรู้ว่าผมไม่ต้องการเป็นแค่ “เพื่อน” ผมรักเธอ แต่ผมก็อายเกินไปที่จะบอก และผมก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น
งานศพ
หลายปีผ่านไป ผมก้มหน้ามองโลงศพของผู้หญิงที่เคยเป็น “เพื่อนรัก”ของผมในงานศพพวกเขาได้อ่านสมุดบันทึกของเธอทั้งหมดที่เธอเคยเขียนไว้ในสมัยเรียนไฮสคูลข้อความในสมุดบันทึก “ฉันจ้องมองเขาและปรารถนาให้เขาเป็นของฉัน แต่เขาไม่ได้คิดกับฉันแบบนั้นฉันรู้...ทุกครั้งที่ฉันจูบลงบนแก้มเขา ฉันอยากจะบอกเขาให้รู้ว่าฉันไม่ต้องการเป็นแค่ “เพื่อน” ฉันรักเขาแต่ฉันก็อายเกินไปที่จะบอก และฉันไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ฉันปรารถนาให้เขาบอกว่าเขารักฉัน และฉันก็ปรารถนาอยากบอกเขาเหมือนกัน ฉันคิดกับตัวเองและร้องไห้ ฉันรักเธอ..........รักมาก”
การที่คุณรักใคร ก็บอกเขาไปก่อนซะก่อนที่เขาจะไม่ได้อยู่ฟังคำนั้นจากเราอีกต่อไป หรือบอกเขาก่อนที่เราจะไม่มีโอกาสได้บอกอีกต่อไป ใครจะรู้คนที่คุณคิดว่า เขาไม่รักคุณเลยใจจริงแล้วเขาเองอาจรู้สึกแบบเดียวกับคุณก็ได้ไม่บอกรักแล้วจะรู้ใจกันได้อย่างไร?
ผลงานอื่นๆ ของ นู๋น้อยน้อย ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ นู๋น้อยน้อย
ความคิดเห็น